วิธีฟื้นตัวจากอาการอกหักของผู้ชาย
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนคงเคยหลงรักใครสักคน จีบอยู่นานแล้วแห้วรับประทาน หรือถึงขั้นคบกันเป็นแฟนแล้ววันนึงเธอก็สลัดเราทิ้งไป
อาการทั้ง 2 อย่างนี้ภาษาสากลเขาเรียกว่าอกหัก นั่นแหละครับ ยิ่งกับตัวผมด้วยแล้วจะโดนอย่างหลังประจำ อะไรที่โดนบ่อยๆ ร่างกายมันก็จะสร้างภูมิต้านทาน ตามกฎของธรรมชาติครับ
วันนี้ผมเลยได้โอกาสมาเขียน วิธีฟื้นตัวจากอาการอกหักให้เพื่อนๆอ่านกันน่ะครับ ผมเคยเห็นบางคนอกหักแล้วประชดตัวเอง ประชดแฟน ทำตัวเหลวแหลกไร้สาระมากครับ เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยตั้งแต่บัดนี้ครับ ชีวิตจะได้มีแต่ความสุขครับ
ขั้นแรกเลยเราต้องแก้ที่กระบวนการคิดครับ อกหักคืออะไร อกหักคือผิดหวังใช่ไหมครับ งั้นเราก็ต้องแก้ที่กระบวนการหวัง (expectation process)
แต่เดิม เวลาชอบใครสักคนคบกับใครสักคนนั้น เราคาดหวังต่างๆนานา เช่น สักวันจะได้ร่วมเตียงเคียงหมอนกับเขา สักวันจะได้แต่งงานกับเขา เขาจะรักเราคนเดียว เขาจะไม่มีคนอื่น ฯลฯ ให้เลิกคิดแบบนี้ได้เลยครับ คนเราเกิดมาตัวคนเดียวครับ กำหนดผู้อื่นให้เป็นอย่างที่เราหวังได้ยากครับ
ทีนี้ก็เกิดคำถามขึ้นว่าไม่ให้หวังแล้วให้ทำไงล่ะฟะ ง่ายๆครับ ไม่ต้องหวังไม่ต้องคิดมากแต่ต้องเคลียร์และแน่วแน่ในเรื่องกิจกรรม และแผนความสัมพันธ์ของเราและคนที่เรารัก ก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติแหละครับ
เลิกหวังและหันมามองโลกในแง่ดีเข้าไว้ครับ บริหารเวลาและนาทีที่มีร่วมกันให้มากที่สุดครับ เพราะไม่มีสิ่งใดแน่นอนครับ วันนี้เป็นของเราควงกับเราพรุ่งนี้อยู่ดีๆเขาอาจจะไปเจอคนใหม่ก็ได้ ใครจะไปรู้ ฉะนั้นขอให้หวังแค่สิ่งที่เราจะเป็นคนกระทำแก่เขา อย่าหวังสิ่งที่เขาจะกระทำตอบให้เราเลยครับ ตอบคำถามตัวเองให้ได้ครับว่าคุณเกิดมาอยากมีแต่ความสุขหรือไม่ถ้าอยากก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ณ เวลานั้น แค่นั้นพอครับ
ยกตัวอย่างกรณีของผมเองนะครับ เมื่อก่อนสมัยวัยรุ่นผมก็มี poppy love กับเขาเหมือนกัน ตอนนั้นผมรักแฟนผมมากให้เกียรติเขาเสมอ ไม่ล่วงเกินเขาเลยครับ ทั้งที่ในใจลึกๆแล้วก็หวังอยู่เหมือนกัน ก็คิดว่าเดี๋ยวคบกันไปสัก 2-3 ปี เรื่องอย่างว่าก็เกิดขึ้นเอง ต่อมาไม่ถึง 3 เดือน ผมก็เห็นเธอกำลังสีกับชายคนใหม่ของเธอต่อหน้าต่อตาครับ (เหมือนในมิวสิคเพลงไทยน้ำเน่าเปี้ยบเลย) เราเลยเลิกกัน
หลังจากนั้นผมก็คบสาวแล้วรักมากจริงจังไม่ยอมล่วงเกินเขามาอีกสัก 2-3 คน แต่แล้วก็มีจุดจบก็เป็นเช่นเดิมครับ คือเธอมีคนใหม่แล้วทิ้งผมไป หลังจากนั้นผมเป็นทุกข์จากอาการอกหักมาก
ผมก็ครุ่นคิดถึงสาเหตุของสิ่งเหลานี้ จนเกิดไอเดียว่า ต่อไปผมจะคบใครรักใครผมจะไม่คาดหวังมากอีกแล้วครับ ให้รีบฉวยวันเวลาแห่งความสุขที่เราไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใดเอาไว้ อย่าให้ความรักหมดใจแบบคาดหวังสุดๆมาทำให้เราเกร็งจนไม่ล่วงเกินเขาอีกต่อไป
(ชอบมาอ้างอีกต่างหากว่าเป็นสุภาพบุรษ ความจริงแล้วเกร็งจนแข็งทื่อไปเองน่ะสิ)
จากนั้นผมไม่ปล่อยให้เวลาแห่ความสุขผ่านไปโดยมิได้ฉวยเลยครับ ไม่เกิน 2 อาทิตย์ที่คบกัน ผมและแฟนๆแต่ละคนก็จะได้ร่วมกันฉวยความสุขกันอย่างสม่ำเสมอ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมไม่เคยเสียใจเลยครับเวลาที่ต้องเลิกลากันไป (ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายขอเลิกทั้งหมดด้วยเหตุผลน้ำเน่าต่างๆนานา)
ผมกลับมองโลกในแง่ดีว่า คนเราดำเนินชีวิตอยู่ได้ด้วยเซ็กส์ไดร์ฟ เราฉวยมันมาพอแล้วถึงเวลาที่ความไม่แน่นอนของโลกพามันจากเราไป ก็เรียกได้ว่าเป็นโอกาสแห่งการหาความสุขกับคนใหม่ๆต่อไป
ที่พูดมานี่ไม่ได้หมายความว่าให้ฟันดะแล้วทิ้งนะครับ ผมหมายถึงว่าให้คบกันแล้วก็รักกันไปเหมือนปกตินั่นแหละ เพียงแต่ใช้หลักพุทธศาสนาเขามาช่วยในเรื่องความไม่เที่ยงแท้แน่นอนเท่านั้นเอง ให้เลือกคาดหวังในสิ่งที่เขาจะกระทำกลับก็เท่านั้น ถ้าเกิดผู้หญิงไม่มาบอกเลิกผมผมก็คบต่อไปได้เรื่อยๆจนแต่งงานกันนั่นแหละ ถ้าเข้ากันได้จริง
ขั้นต่อมาเมื่อแก้กระบวนการคิดได้แล้ว แล้วถึงเวลาที่เราแห้วหรืออกหักก็ให้คิดว่านั่นเป็นโอกาสอันดีที่เราจะเจอสิ่งใหม่ๆ โลกนั้นยังกว้างครับ ยังมีประชากรโลกที่เป็นหญิงให้เราสีอีกตั้ง 4 พันกว่าล้านคน จะไปยึดติดอะไรกับผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เห็นข้อดีของเรา
หรือการไปกินเหล้าย้อมใจนั้นก็เป็นวิธีที่ดี แต่ขอให้เลิกวิธีเมาแบบหัวราน้ำประชดรักได้แล้ว มันล้าสมัย ให้ฉวยเอาการไปกินเหล้านั้นเป็นโอกาสแก่ตัวเรา โดยเลือกร้านที่บรรยากาศดีๆ สาวเยอะๆ ชวนเพื่อนไปกันเลย ดื่มจนเมาให้พอดีๆ แล้วก็แยกย้ายกันไปหม้อ
ศูนย์หน้าที่ดีต้องสร้างสรรค์โอกาสในการยิงประตูเสมอ....แฮ่ม หม้อเข้าไปอย่าท้อ พลาดคนนี้ก็ไปหม้ออีกคน มันต้องเป็นประตูสักลูก มันเป็นศาสตร์แห่งสถิติและความแข็งแกร่งของหัวใจ "ถ้าไม่เคยโง่ ก็ไม่มีวันฉลาด" แอนดี้ โคล ว่าไว้อย่างนั้น
จงฉวยความสุขของท่านไว้เพราะ ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างที่คุณๆหวังกันหรือไม่ เลิกเอาหวังได้แล้วครับ ทำเลย
..
เทคนิคโดยท่านประธาน